17.00 เริ่มตรงเวลาแปะๆ เปิดตัวด้วย วีทีอาร์เหมือนทุกๆปี แต่มันออกแนวผจญภัยออกมาแบบป่าเขาลำเนาไพรเล็กๆ
ซากุไรเซนเซ อยู่ห้องส่งของ TBS รายการ ซากุไร-อิระโยชิ อะบุไน ยาไก้
นิโน่มิย่าเซนเซ อยู่ที่ห้องแต่งตัวก่อนเข้ากล้องรายการ นิโน่ซัง ในขณะที่กำลังแต่หน้านั้น ฟัฟที่ปะแป้งก็กลายเป็น เครื่องหมายโรงเรียน นิโน่เซนเซก็รู้แล้วหล่ะว่าคืออะไรต้องแปลงร่างเป็นเซนเซก่อน
ไอบะเซนเซ อยู่ในสวนสาธารณะ นั่งกินไอศรีม บนไม้ ไอศรีมที่ทาน แล้วก็เห็นเครื่องหมายโรงเรียนวากุวากุโผล่ขึ้นมาแปลงร่างงงง เป็นไอบะเซนเซ
มัสซึโมโต้เซนเซ ยังนึกไม่ออก(ขอโทษครับจุน ลืมไปแล้ว)
โอโน่เซนเซ อยู่ที่ กองถ่าย ชินิกามิคุง ยื่นใบชินิกามิคุง ผู้กำกับบอกคัต โอโน่เซนเซดูบัตรอีกครั้งเป็น วากุวากุกักโก การ์ดแทน แบบนี้ก็ต้องแปลงร่างแล้วซิเนาะ
เริ่มเปิดรายการ นั่งรถ Friendship น่ารักน่าชัง แต่อยู่ในรถทำให้เรามองไม่ค่อยเห็นกัน นอกจากมองในวีดีโอข้างบน
เมื่อเปิดตัว ทำความเคารพเซนเซเรียบร้อยแล้ว ทักทายกัน แต่วันนี้ให้ทุกคน เอามือวางบนบ่าขึ้นข้างๆ ทั้งสองข้างเลย(นึกแล้วเหมือนเวลา นักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นทำทุกครั้ง กอดคอกลมๆ ) ธีมวันนี้ ก็คือ Friendship(มิตรภาพ) นั่นเอง นักเรียนในโดมก็ต้องทำด้วยกันนะค่ะ โดยมัสซึจุนเซนเซเป็นคนนำ อันนี้สนุกดี ทำเพื่อเรียกกำลังใจ รวมรวมมิตรภาพแล้วจะได้ทำอะไรร่วมกัน ต้องร้อง โอ ตอนท้ายด้วย และก็พอ จุนพูดบอกว่า วากุวากุกักโกะ (แล้วให้นักเรียนพูดอะไร จำไม่ได้แล้ว)
1. นิโนมิย่าเซนเซ สอนเรื่องการร่วมมือร่วมใจของเพื่อน (จำความไม่ค่อยจะได้สักเท่าไร) ใช่ตอนนี้ต้อนแกะกัน โดยมีตัวอย่างการต้อนแกะ ด้วยน้องหมาโปรต้อนแกะ และ ต่อมาก็แยกกลุ่มหนุ่มๆของพวกเราเป็นสองกลุ่ม โชจุน กับ ไอโอ แค่สองหนุ่ม ไอโอ ถอดเสื้อ วอร์ม ก็กริ๊ดดดดด สองคนวิ่งไปฝังตรงกันข้ามที่เรานั่งเลย (ส่องกล้องตาปูดดดด ) แอบมองที่บั้นท้ายไอบะจังหน่อยหนึ่ง เป็นห่วงกางเกงวอร์มจะหลุดจัง(ห่วงม้ากกกมาก) เพราะ ไอ้กล่องไมโครโฟนมันรั้งก็จะหลุดลงมา เป็นของแถมให้เราไง
กร๊ากกกกก(ลุ้นมาก ลุ้นให้มันหลุดนะ) แต่ขอโตดดด
โชจุนเดินมาพร้อมกันก็กริ๊ดดดด อิอิ ถึงเวลาต้อนแกะกัน สองคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้แกะ เข้าคอกได้ตามเวลา (ตอนนี้ตอนฮาเลยไม่ค่อยมีคำพูดอะไรเท่าไร เพราะเค้าเน้นแฟนเซอร์วิสเป็นส่วนใหญ่) ไอบะจังของเค้าวิ่งวนไปวนมา จริงๆ แล้ว นายไอบะนี่ควรจะรู้เรื่องสัตว์ดีกว่าใครๆ ทำไม นายวิ่งวน แกะไม่ยอมเข้ากรง ไปขวางแกะซะงั้น
แต่ในที่สุดทั้งสี่คนก็ไม่สามารถต้อนแกะเข้าคอกได้ตามเวลา
และในทีสุดก็มีน้องหมาโปรมา มาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง น้องหมาก็เก่งมากกก สมเป็นโปร ทั้งๆที่ตื่นคน(คนเยอะ) แต่ก็ทำได้ในที่สุด
นอกเหนื่อจากนี้ มิโนมิย่าเซนเซทำอะไรอีกยังนึกไม่ออก (ขอโทษทีนะค่ะ ) ไปอ่าน รีพอร์ตของน้องๆแฟนญี่ปุ่น ปรากฎว่าพวกนางรีพอร์ตเรื่องฟินเป็นส่วนตัวและ อธิบายเป็นตัวอีโม้ อิป้าอย่างเราก็ไม่รู้จะรวบรวมส่วนที่เกินจากความจำมาได้อย่างไงดี
2. ซากุไรเซนเซ เซนเซสอนเรื่องวิธีการสร้างเพื่อน และซากุไรเซนเซก็มีตัวอย่างการสร้างเพื่อน โดยเลือกที่บ่อตกปลา เซนเซปลอมเป็น โชทาโร่ซังค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องหาทำเลที่จะสร้างเพื่อนก่อน ที่บ่อตกปลาส่วนมากก็จะเป็นโปรแล้วเป็นส่วนมากนะค่ะ(แต่ละคนต้องการความเป็นส่วนตัวสูง)
(เป้าหมายคนแรก) โชทาโร่ถามว่าตรงนี้ว่างไหม พอดีคนที่นั่งอยู่ก่อนไม่ค่อยยินดีถ้าจะมีคนนั่งข้างๆ เค้าเลยบอกตรงๆ ช่วยไปหาที่นั่งที่อื่นได้ไหม(แป๋วววว)
โชทาโร่ต้องเปลี่ยนเป้าหมายใหม่แล้วค่ะ
(เป้าหมายที่สอง) ลุงคนใส่เสื้อยืดสีขาว ดูท่าทางใจดี โชทาโร่ถาม ข้างๆ นั่งได้ไหมครับ ลุงเสื้อขาวยอมให้นั่งข้างๆได้(โอกาสมีแล้ว) โชทาโร่จะเริ่มตรงบทสนทนาตรงไหนดี แรกๆ ลุงแกไม่สนใจใยดีเลย ถามไปก็ไม่ตอบ(อีกตะหาก) โชทาโร่ต้องหาเรื่องคุยแล้วค่ะ แต่จะต้องเริ่มตรงไหนดีหล่ะ เพราะลุงแกก็ยังตอบบ้าง บางทีก็ไม่ตอบ เริ่มจากถามบ้านดีกว่า ในที่สุดก็เริ่มการสนทนาจากการถามบ้านที่อยุ่ ว่ามาจากไหนอะไรอย่างไงกัน ลุงแกบอกมาจากชินจูกุ โชทาโร่บอก บ้านผมอยู่แถวๆนี้ และคุยต่อไปบอก ที่ โยซียะ ก็มีบ่อตกปลา เคยได้ยินว่า ซากุไรเซนเซ เป็นคนแถวๆ เซตากาย่าคุ นะค่ะ แถวนั้นบ้านคนมีฐานะเป็นส่วนใหญ่เช่น ยูนิโคลชาโจ้ และพวกนักการเมืองอีกหลายคนมาก รวมทั้ง โทโกโร่ จอร์จ) เยอะไปนะ อิอิ ลุงเริ่มสนทนามากขึ้น และโชทาโร่ก็อัธยาศัยดีมากๆ ลุงเริ่มเอาเหยื่อตกปลาให้ กำลังไปด้วยดีเลย จากนั้นการสนทนาก็เริ่มดีขึ้น โชทาโร่ก็เริ่มแนะนำตัวและ ถามชื่อคุณลุง ลุงชื่อ อิโต้ซังค่ะ สุดท้าย ตอนนี้โชทาโร่ก็ได้เป็นนักตกปลามาเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้ว และยังเอาเบ็ดให้โชทาโร่(ซากุไรเซนเซ)
ในห้องเรียน(ในโดม) ซากุไรเซนเซ บอกกับ โอจัง อิโต้ซังเค้าเรียกว่า ซากุจัง(ซากุไร โช)เป็นที่เรียบร้อย และวันหลังจะแนะนำให้รู้จักนะ โชจังทำหน้าแบบ เป็นไงนั่นเจ๋งใช่ไหม และ โอจังทำหน้า(โหหห.....เหมือนถูกกดดันเพราะ โชจังบังอาจล้ำหน้าตัวเองที่มีเพื่อนเป็นนักตกปลา) ลุแกเอาเบ็ดให้ ซากุจัง(ซากุไรเซนเซ) มาให้โอจังดูด้วย โอจังบอกเบาและดีมากเลย คืออิโต้ซังแกน่าจะเป็นโปรทีเดียวเลยหล่ะ
ต่อไปเซนเซพูดถึงเรื่องการทักทายของประเทศต่างๆ แต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป แต่ซากุไรเซนเซเลือกมาสี่ประเทศ
ฝรั่งเศษ- แก้มแนบแก้ม
นิวซีแลนด์ - เอาจมูกชนกัน
มองโกเลีย- ดมกลิ่นกัน
เคนยา - ถุยน้ำลายใส่มือกัน
ตรงนี้ ซากุไรเซนเซก็เปิดให้นักเรียนได้ทำความรุ้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ที่อยู่ข้างๆ เรา( คือเราไปคนเดียวนะ) ข้างหนึ่งเป็นเด็กวัยรุ่น แต่งชุดนักเรียนอนุบาลมากัน เราก็ทักทายแต่ดูน้องเค้าไม่ค่อยอยากคุยเท่าไร อีกข้างหนึ่ง เราก็ทักทายกัน เค้าก็อัธยาศัยดี เพราะเราดูจากเวลาเราทักไปเค้าก็คุยตอบกลับ คุยกันถูกคอค่ะ เป็นคู่แม่ลูกเป็นแฟนไอบะจังทั้งคู่ดูสภาพจากลูกสาวใส่เสื้อผ้า ต้องมีอะไรที่ประกอบไปด้วยสีเขียว(เหมือนเรา อิอิ ) คุณแม่ก็จะคอยส่องดู(เช่นเราอีกแหละ) ดูเหมือนถ้าไม่ใช่ไอบะจังก็เป็นโอจังนะค่ะ สองแม่ลุกมาจากโตเกียวค่ะ และเรายังถามอีก (โดยซากุไรเซนเซคอยเป็นสื่อ) เค้ามาครั้งที่ 2 แหละ ส่วนน้องคอสเพล อนุบาลมาเข้าเรียน สามครั้ง
ฝั่งทางคู่แม่ลูกดูเหมือนจะอัธยาศัยดีกว่า เพราะเราสังเกตน้องอนุบาลสองคนไม่ค่อยสานต่อและไม่ค่อยคุยกับใครไม่ว่าฝั่งไหน
ส่วนตัวอย่างการทักทายกัน วันนี้จับฉลาก ได้ จุนคุง กับ ไอบะจังค่ะ
วิธีการเลือกใช้หมุนกงล้อเอา ที่แรกหยุดอยู่ตรงที่ฝรั่งเศษ แต่มีมือมืดมาหมุนต่ออีก.... และในทีสุดก็หยุดตรงที่ นิวซีแลนด์(สาวๆ กริ๊ดกันตรึม แต่เราซิกลัวจะได้เคนย่า เพราะสงสารหนุ่มทั้งสองมากๆ ถ้าได้ ขนาดเรายังแอบสยองตามไปด้วย) มีแอบแซวกันอีกนะ ว่าวงล้อนี้มันไม่เคยเห็นนะ ที่มันจะหมุนต่อได้เองเนี้ย
และแล้วสองหนุ่มก็ทำเป็นตัวอย่าง พอดีเรามัวแต่ส่องกล้องเพราะกลัวไม่เห็นแบบใกล้ชิด(คือเราจะส่งดูไอบะจังนะ)ไอบะจังเอาจมูกถูๆ จมูกจุนคุง(เค้าแค่ชนอย่างเดียวนะพ่อคุณ) สาวๆ เด้กๆ ป้าๆ ร้องกริ๊ดดดดดด(ด้วยความตื่นเต้น หรือลุ้นอะไรกันไป) ได้แต่คิดไอบะจังทำเกินคำสั่ง อิอิ
บทสรุปของซากุไรเซนเซ การที่จะเริ่มเป็นเพื่อนกัน เราต้องมีการทักทายกัน แนะนำตัวบ้างอะไรบ้าง มันจะทำให้เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นนะค่ะ
3. ไอบะเซนเซ สอนเรื่อง ทำอย่างไรเพื่อนประสานความเป็นเพื่อนเพิ่มเติม เราต้องทำเบนโตซิ บนวีทีอาร์ก็มีรูปตัวอย่างเบนโตะ น่ารักมากมายมหาศาล(จำแทบไม่หมด) เซนเซบอกให้นักเรียน ทุกคน ใครเบนโตมายกมือขึ้น ก็พากันยกสล๊อนเลย ใครทำโอเบนโตะ มาอะไรอย่างไง และแล้ว ไอบะเซนเซก็เริ่มสำรวจเบนโตของนักเรียน ซุ่มไปเป็นบางคน ที่จำได้ มีหยุดอยู่ที่ สองสาวแต่งตัวเป็นเซ็ต สีแดงและสีเหลือง(อันนี้พวกเราเข้าใจตรงกันคือ อีกคนเป็นแฟน พี่โช และอีกคนเป็นแฟนนิโน่ นะค่ะ) คู่นี้มาด้วยกัน คนหนึ่งเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนกวดวิชา และ อีกคน(น้องชุดแชดสีเหลือง) เป็นนักเรียน และที่สำมะคัญ สองคนนี้หน้าตาใกล้เคียงกันนึกไม่ถึงว่าจะเป็นคู่อาจารย์กับนักเรียน ครูทำอะไรมาเราจำไม่ได้ แต่จำได้ที่ไอบะจังทัก เล็บทีคุณครูสาวทำมา สุโก้ยเน้ๆ สุโก้ยเน่ ๆ จน นิโน่บอก นี่เค้าให้ดูเบนโตะนะ ไม่ใช่ดูเล็บ แต่เล็บของนางก็เริศจริงๆ ค่ะ ทำเป็นโลโก้ วากุวากุกักโก คิงโลโก้ ประโคมแต่งจัดเต็มมากๆ
น้องคนที่เป็นนักเรียน วันนี้ทำเบนโต เป็นแฮมเบอร์เกอร์ เค้าสัมภาษณ์ด้วยที่ทำแฮมเบอร์เกอร์เพราะ นิโน่ชอบแฮมเบอร์เกอร์นั่นเอง(เนี้ยค่ะ แฟนเกิร์ลเป็นเช่นนี้) แล้วนีโน่ก็ยังได้กล่าวทักทายอีก น้องเค้าดีใจมากกกน้ำตาปริเลย นอกจากแฮมเบอร์เกอร์แล้วยังมีข้าวเซกิฮัง(ข้าวเหนียวถั่วแดง) แม่ของน้องบอกมากินข้าวนี้แล้วจะโชคดี และก็โชคดีจริงๆ ไอบะเซนเซยังบอกอีกว่ากลับไปอย่าลืมบอกแม่ด้วยนะวันนี้ได้คุยกับนีโน่ด้วย
หมายเหตุ เซกิฮัง(ข้าวเหนียวถั่วแดง) ส่วนมากจะใช่ในงานมงคลและกินเพื่อให้เป็นมงคลกับตัวเอง เราก็ชอบกินนะ โชคดีจริงๆด้วย
กล้องยังเลื่อนไปเริ่อยๆ ต่อไปหยุดที เด็กน้อยมากกก(10 เดือน) วันนี้มากันสามคน คุณแม่ ลูก และหลานสาว(สิบเดือน) น่าตกใจไหม เดียวนี้ อาราชี มีแฟนตัวน้อย ตั้งแต่เป็นทารกเลย (คือที่มาเพราะคุณแม่พามามากกว่านะค่ะ) วันนี้มาพร้อมกัน สามรุ่นเลย เบนโตเค้าเจ๋งมาก ใช้เวลาทำไป 3 ชั่วโมง แต่ทำเป็นข้าวปั้นกลมๆ แล้วมีโนริตัดเป็นรูปหน้าทั้ง 5 คนเลยค่ ไอบะเซนเซ คุณแม่ทำเบนโตะของลูกสาวตะหาก (เค้าทำมาน่ารักมาก) ลูกสาวตัวเล็กชอบ ชีสมาก คุณแม่เลยเอาชีสมาทำเป็นรูปโลโก้ อาราชีและตกแต่งให้เป็นรูปร่างโดยโนริ(สาหร่าย) ไอบะเซนเซเห็นว่าน้องชอบทาน ชีสก็เลยบอกให้น้องทานซิครับ แม่เค้าก็ป้อนลูกแต่คนที่ลุ้นมากกว่าแม่คือไอบะเซนเซของเราค่ะ
ตรงนี้เราแอบมองหน้าสายตาของไอบะจังอ่ะ ดูนายปลื้มปริ่มกับน้องจังเลย(ลุ้นให้น้องกิน ดูท่าทางอร่อยนะ อ้าาากินแล้วววว) แหมมมอยากจะมีซะเองอย่างงั้นแหละ รีบไปหาทำเองเร็วๆเลย อิอิ เราซิปลื้มไอบะเซนเซมากกว่าอีกอ่ะ น่ารัก สายตาเอ่ยอะไรเอย (เข้าใจเนาะ สายตาไอบะจังตอนที่มองเด็กๆ รักกก รัก รักกกมากกกก เพ้อเลย)
ต่อมาเป็นเรื่องการนำเสนอ เบนโตของผม วันนี้ เป็น โอจัง(ซาโตชิคุง) ที่คุณแม่ของโอจังทำมาให้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก พร้อมกับจดหมาย(รัก อิอิ เปล่าไม่ใช่) เบนโตของโอจังก็จะเต็มไปด้วยผัก จากจดหมายคุณแม่ บอกว่า ซาโตชิคุง ชอบทานผักมาก โดยเฉพาะบล๊อกโคลี แตงกวา และของที่ซาโตชิ ชอบมากก็มีดังนี้นะค่ะ(สาวๆ จดค่ะ) ไข่ทอดญี่ปุ่น มิทบอล ไส้กรอก โดยเฉพาะ บล๊อกโคลี่นั่นชอบมากๆ สามารถที่จะกินเป็นหัวๆ ได้เลย ซาโตชิคุงตัวผอมตั้งแต่ตอนเป็นเด็กๆ(ไม่ได้พึ่งมาผอมนะ) คุณแม่ก็อยากจะให้ทานเยอะๆ และทุกวันนี้ก็ยังเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องรับทานของซาโตชิคุง เมื่อก่อนตอนเป็นนักเรียนก็กินเบนโตหมดทุกครั้ง ทำอะไรใส่เบนโตก็รับทานได้หมด คือ ซาโตชิคุงเป็นคนง่ายมาก กลับมาเบนโตะว่างเปล่าทุกครั้ง คือเรื่องกินก็เต็มที่นะ แต่ไม่อ้วน(เหมือนไอบะจังเราเลย นายไอบะ รับทานเยอะมาก) แต่ไม่อ้วนเอาซะเลย
วันนี้ไอบะเซนเซก็เลยจะมาทำไข่ทอดสูตรคุณแม่ของซาโตชิคุงให้ทานกัน
สูตรไข่ทอด
ไข่ 3 ฟอง
น้ำตาลทราย 1ช้อนโต๊ะกับอีกครึ่งช้อน(คนญี่ปุ่นทั่วไปใช้ดาชิ หรือ น้ำซุปปรุงรสค่ะ)
น้ำมันสลัด(ปกติญี่ปุ่นก็ใช้ปรุงอาหารและทอดของทั่วไปค่ะ)
ไอบะเซนเซเริ่มทอดโดยแบ่งทอดทีละนิด มีการบรรยายด้วย ไข่ม้วนเสร็จและก็เอาไปไว้ทางเหนือ และทางใต้ก็เอาไข่ลงไปทอดใหม่ม้วนทางทางทิศใต้แล้วย้ายไข่ไปทางเหนือ (น่ารักอ่ะ) จุนคุงชมว่าไอบะเซนเซทอดเก่งและสวยม้วนออกได้ดีด้วย นี่สงสัยจะเป็นเพราะรายการไอบะมานาบุได้ทำหรือเปล่า ไอบะเซนเซบอก ยังไม่เคยได้ทอดไข่ในรายการเลย(จำได้ว่าอาทิตย์ก่อนโน้น ทำไข่ห่อข้าวไป ก็คงละอย่างอ่ะนะ) ไข่ออกมาสวยน่าทานมาก ซาโตชิคุงได้ชิมบอกรสชาดเหมือนกับแม่ทำสมัยแต่ก่อน แต่ของแม่จะออกหวานกว่านี้หน่อย
บทสรุปของไอบะเซนเซก็คือ การรับทานอาหารด้วยกัน หรือเอาเบนโตไปทานด้วยกันนั้นทำให้เราได้มีเวลาได้คุยกันกับเพื่อน เหมือนกับการสร้างเพื่อนให้มากขึ้นกว่าเดิม กว้างขวางมากกว่าเดิม และส่งท้าย วันที่ 20/7 เป็นวันเพื่อน อย่าลืมทานข้าวกับเพื่อน เอาเบนโตมาทานด้วยกันเพื่อนเชื่อมสัมพันธไมตรีนั่นเอง
จบจากพาร์ทของไอบะเซนเซ มีที่นอนขึ้นมา โอโน่เซนเซบอกว่าเราควรจะมีเวลาพักผ่อนหลังอาหารและชวนนักเรียนทั้งโดมหลับ หลับในเวลาพักเที่ยง ไม่มีใครหลับลง โดยเฉพาะนักเรียน พากันส่งกล้องดูเซนเซทั้งห้าคนเรานอนหลับ สักไม่ถึง สิบนาที ก็ได้เวลาลุก เบรคนี้ด้วยเพลง GUTS น่ารักมากเลย เซนเซนะค่ะ
ก่อนเริ่มเรียนภาคหลัง ก็มีการเรียกกำลังใจอีกครั้ง พวกเรานักเรียนกอดคอกับเป็นวงกลมอีกครั้ง อันนี้ชอบสนุกดี เหมื่อนนักกีฬากำลังจะลงสนามเลย
4.มัสซึโมโต้เซนเซ ช่วงของเป็นเรื่องของการเช๊คความเป็นเพือน ยินยันความสนิทสมมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนค่ะ
เกมมมมม Yuujou kakunin(友情確認) หรือเกมยืนยันความเป็นเพื่อน
วิธีการเล่มเกม คือ เลือกเพื่อนในกลุ่มมาหนึ่งคน แล้ว ให้เพื่อนที่เหลือ เป็นคนทายใจเพื่อนค่ะ
รอบนี้ เป้าหมายคือ นิโน่ค่ะ และเพื่อนๆ ที่เหลือ คือ โชจัง โอจังและไอบะจัง รวมจุนคุงไปด้วยก็ได้ ทายใจว่าเพื่อน(นิโน่อยากได้อะไรมากที่สุด)
ปล. พยายามอฺธิบายให้น้องๆ เพื่อนๆ พี่ เข้าใจมากที่สุดนะค่ะ จะได้เหมือนได้ดูอยู่ในโดม
วันนี้ มีสี่อย่าง ที่นิโน่อยากจะได้มากที่สุดมาให้นีโน่เลือกค่ะ
1. กีต้าของอิลิค แคปตัน(ถ้าเรียกชือเค้าผิด ที่เขียนภาษาไทย ต้องขอโทษด้วยค่ะ)พร้อมลายเซ็นต์ของอิลิค แคปตัน
2. ไม้เบสบอลของ ฮาราคันโตกุ (ฮาราซัง ผู้จัดการทีมไจแอนด์ คิวจิน) พร้อมทั้งลายเซ็น
3. ไพ่ ของ มาริคคุซัง(นักมายากลดังมากกกของญี่ปุ่น ที่แกชอบใส่แว่นดำ) พร้อมทั้งลายเซ็น
4. คอนโทลเลอร์ ของทากาฮาชิ จูจิน เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านเกม ง่ายๆ เครื่องบังคับเกมสมัยเมื่อก่อนพร้อมทั้งลายเซ็น
เอาหล่ะซิค่ะ 4 อย่างล้วนแล้วแต่เป็นของชอบ ชอบมาก และงานอดิเรกของนิโน่ กีต้าร์ก็อยากจะได้ ไม้เบสบอลของฮาร่าซังยิ่งอยากได้มาก มายากลก็ชอบ เกมก็ยิ่งชอบ
ที่ว่างของทั้งสี่ชิ้น อยู่บนแท่น ก่อนจะถึงแท่นที่ของวางนั้นก็จะมีบ่อโฟมอันใหญ่ มีกระดานหนึ่งอัน เพื่อเป็นที่เดินให้ไปเอาของที่นิโน่อยากได้ ในสี่กระดานจะเป็นแผ่นไม้จริงๆ ที่สามารถเดินไปได้ และอีกสามกระดานที่เหลือเป็นกระดานโฟม ถ้า นิโน่เลือกของในใจไม่ตรงกันกับเพื่อนทั้งสาม ก็จะตกลงไปในบ่อ
ตอนนี้เพื่อนทั้งสามคนต้องปรึกษากันและเลือกกระดานจริงๆ ไปวางตรงของที่เพือนคิดว่านิโน่จะต้องเลือก
ในระหว่างที่เพื่อนๆ กำลังเลือกและจัดการอยู่นั้น นิโน่จะต้องใส่เฮดโฟนเพื่อนจะไม่ให้รู้ว่าเพื่อนๆเลือกอะไร นิโน่เองต้องเลือกของที่อยากได้ไว้ในใจด้วย นิโน่นอน ร้องเพลงคาราโอเกะคนเดียว อันนี้แฟนๆ กริ๊ดดดมาก
ขอบอกเลย แถวที่เรานั่นนะ แฟนเป็นเด็กๆ วัยรุ่นเยอะ นักเรียนก็เยอะ พวกเด็กๆ ก็จะกริ๊ดกันทุกอย่าง เดินก็กริ๊ดด ทำอะไรก็กริ๊ด บางทีเค้าคุยกันบนเวที เราฟังไม่รู้เรื่องเพราะ เด็กๆ มันฟินกันจัด นี่แหละ สาววายจิ้นกันเยอะ ว่างั้น ลุ้นกันจังเลยยยย มันก็น่านะ โน่ นอนร้องเพลงสบายอุราอยู่คนเดียว เราไม่รู้เลยว่าโน่ร้องเพลงอะไร พยายามจะฟังแต่เสียงเด็กๆ ก็อื้ออึงอยู่ข้างๆหู เลยไม่รู้เลยว่าโน่ร้องเพลงอะไร
มาๆ กลับมาต่อกันเมื่อเพื่อนๆ เลือกได้แล้วว่าจะเอาอะไรเป็นของขวัญให้เพื่อนและเพื่อนๆ ต้องคิดว่าโน่ต้องเลือกสิ่งนี้ด้วย ในที่สุด เพื่อนทั้งสามเลือก คือ ไม้เบสบอลของฮาราซังพร้อมลายเซ็น(เพราะมันเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้มากๆ โน่กำลังเล่นละครเกี่ยวกับเบสบอลและชอบเบสบอลมาก)
ถึงเวลาระทึกใจแล้วค่ะ โน่เอาเฮดโฟนออก พร้อมจะวิ่ง โน่จะต้องวิ่งไป ที่ของที่ตัวเองอยากจะได้(และต้องเป็นของที่เพื่อนเลือกด้วย) โน่เลือกไม้เบสบอลของฮาราซัง(เลือกตรงกันกับ สามหนุ่มเรา) แต่ฮามากคือ ตอนที่วิ่งไป ต้องวิ่งไปไวๆ แบบมั่นใจ แต่โน่วิ่งไปเหมือนคนที่กำลังจะตกลงไปในหลุม เป็นแบบขาอ่อนๆ นึกออกไหมค่ะ ประมาณคนที่วิ่งไป ขั้นจะต้องตกลงไปในหลุม แต่มันไม่ตก ดูแล้วตลกมากๆๆๆ
สรุปแล้ว ทุกคนทายใจเพื่อนถูก โน่โดนแซวนิดหน่อย ว่า ทำไมวิ่งแบบไม่มั่นใจแบบนั้นหล่ะ คือ โน่วิ่งเหมือนคนวิ่งกระโดด เขย่งก้าวกระโดด แล้วขาอ่อนก่อนถึงที่ประมาณนี้แหละ จากนั้นก็แซวกันไปพอหอมปากหอมคอ สุดท้ายโน่ก็ได้ไม้เบสบอลของฮาราซังเป็นของขวัญค่ะ
ช่วงต่อมาเป็นช่วงเช็คความสนิทสมมของเพื่อนๆ โดยมีการอ่านจดหมายจากแฟนทางบ้านด้วย ประมาณ เธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีทั้งรุ่นน้องและรุ่นเดียวกัน แต่เวลาพูด คือจะต้องมีการพูด อบรมกับบ่อยๆ กลัวจะพูดผิด พูดไม่เก่ง บลาๆๆ
ไอบะจัง บอกส่วนตัวเองนะ ถ้าเกิดผิดพลาดก็จะทำใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
โชจังบอก ถ้าเป็นตัวเค้านะ จะฝึกซ้อมมาก่อน ซ้อมอีก พยายามทำดีที่สุดเพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนแล้วถึงจะทำ
โอจัง ..
สรุปตรงหัวข้อนี้ มัสซึโมโต้เซนเซเลือกแนะนำคือ เราต้องฝึกซ้อม ให้มั่นใจและถ้าผิดพลาดไปก็พยายามทำใหม่ให้ดีขึ้น
จากนี้ก็มีการเช็คความเป็นส่วนตัวของอาราชีกันค่ะ (ช่วงนี้สาวๆ กริ๊ดกร้าดดด) ถามถึงที่เพื่อนๆ เลือกชื่อแต่ละคนกัน เริ่มที่ จุนคุงกับ โอจังเรียกกันอย่างไง ุจุนคุงบอก ตะก่อนเรียก โอจังว่า โอโน่คุง แต่มาเรียกตอนหลังว่า รีด้า มาตลอด ส่วนโอจังก็เรียก มัสซึจุน มัสซึจุนตลอดดด โชจังหันไปถาม มัสซึจุน แล้วเรียก รีด้า ตั้งแต่เมื่อไรหละ ก็เรียกตั้งแต่ เราเป่ายิ้งฉุบกันและโอโน่คุงได้เป็น รีด้านั่นและ จุนคุงก็ย้อนถามแล้วอยากจะให้เรียกชื่อ อย่างไง โอจัง รีบเลยตอบเลย ไหนเรียก ซาโตชิคุง อีกทีซิ ช่วงนี้สาวๆ กริ๊ดดดหูดับตับไหม้ เอาเนาะ ช่วงเซอร์วิสแฟน อิอิ
ต่อมาก็เรียกชื่อในกลุ่มกันอย่างไง โชจังกับ ไอบะจังหล่ะ ส่วนมากทุกคนในกลุ่มเรียก ไอบะจัง หรือไอบะคุง โชจังถามจะให้เรียกอย่างไงดีนะ เรียกไอบะคุงมั้ง ไอบะจังมั้งแล้วแต่ เอะแต่จะเรียกอย่างไงดีนะ มาซาคุง(อันนี้เราชอบบบบบบ มาซาคุงง...... อันนี้มยุรีย์ชอบอ่ะ) มาคุง
และมัสซึโมโต้เซนเซก็รวบรวม การสานต่อความสัมพันธ์ของเพื่อนต้องทำแบบต่อเนี่องกันไปนะค่ะ
5.โอโน่เซนเซ เน้นส่วนสำคัญกันดีกว่า โอโน่เซนเซ เขียนจดหมายถึงเพื่อนๆ (สี่คน) ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเรียกโอจังก่อน โอจังเล่าตอนที่เดบิวกันใหม่ๆ แล้วต้องไปถ่ายทำนอกสถานที่ ที่ อิซุ นั่งรถตู้ไปกัน 2-3ชั่วโมงเพื่อไปถ่ายรายการ และก็เรียงลำดับการนั่งในรถว่า โชจังกับ จุนคุงนั่งแถวหน้าประจำ และถัดมาก็เป็นไอบะจัง นิโน่ และก็โอจัง ขากลับคนขับรถต้องพาไปส่งที่บ้าน และคนขับรถก็ต้องไปส่งโชจัง กับจุนคุงก่อนทุกที จากนั้นก็เป็นไอบะจัง นิโน่ และเค้า(โอจัง) ก็จะได้ไปส่งเป็นคนสุดท้ายบ่อยๆ อิอิ แต่อย่างไงนะ ทุกคนก็นากาโยชี่กันดีนะค่ะ จากนั้นก็เล่าความใฝ่ฝันตอนเด็กของแต่ละคน
โชจัง ตอนเด็กมีความฝันอยากจะเป็นคอนดักเตอร์ เป็นผู้ควบคุมวง ออกเคสตร้า แต่เกิดโชจังได้เป็นคอนดักเตอร์จริงๆ ในระหว่างที่ควบคุม บนแท่นของคอนดักเตอร์ไปเผลอ ร้องเพลงเรปเล่นเอานักดนตรีงงใช่ไหม ต้องโดนไล่ออก เห็นไหมหล่ะ เป็น อาราชีนั่นแหละถูกต้องดีที่สุดแล้วววว
มัสซึจุน ตอนเด็กมีความฝันอยากจะเป็นนักเบสบอล ใช่จุนคุงอยากเป็น Catchers เหมือนกับ ชินโนะสุเกะ อาเบะซัง โอจังก็มโนต่อ เกิด มัสซึจุนได้เป็น เคสเซอร์ เหมือนกับอาเบะซัง แล้วเกิดตีลูกโฮมรันได้ วิ่งไปรอบสนาม ถอดเสื้อ(มโนเหมือนกันที่ จุนคุงชอบถอดเสื้อบ่อยๆ) แบบนี้นะต้องโดน คันโตกุ ไล่ออก เห็นไหมหล่ะ เป็นอาราชีนั้นโชคดีที่สุดแล้วววววว
ไอบะจัง ตอนเด้กมีความฝันหลายอย่างเลย(น่ารักอ่ะ อวยเห็นๆ ยังไม่ได้เริ่มเล่าเลย) ไอบะจังบอกตอนเป็นนักเรียนอนุบาล อยากจะเป็น คิงนิคุมัง พอโตมาอีกหน่อยหนึ่งรู้ว่าจะเป็นฮีโร่เหมือน คิงนิคุมัง คงจะไม่ได้แล้วหล่ะ ก็เลยหันมาฝันอยากจะเป็น ชาโจ้ หรือ เจ้าของกิจการ ด้วย แต่จะต้องมีหนวดด้วยนะ ไอบะจังบอก ตอนเด็กๆ นะ พ่อ(คุณพ่อไอบะจังนะค่ะ) ไว้หนวด เหมือนกับ มาริโอ้เลย ตัวเองรู้สึกว่ามันเท่ห์มากๆเลย เลยอยากเป็นชาโจมีหนวด และเค้าถาม จะเป็นชาโจ้อะไรหล่ะ ไอบะจัง บอก งั้น เอาเป็นชาโจ้ เจ้าของบริษัท ไอทีก็แล้วกัน ต่อมา โอจังก็มโนต่อ บอก ถ้าไอบะจังเป็น ชาโจ้นะ เกิดทำงานผิดพลาด ทำให้กิจการเสียหาย บริษัทอาจจะถูกปิดก็ได้นะ เพราะอย่างนั้นนะ ตอนนี้เป็นอาราชีนั้น โชคดีที่สุดแล้วววว
นิโน่ ตอนเด็ก โน่ก็ฝันอยากจะเป็นนักเบสบอลเช่นกัน (ความจำหายยยไป กริ๊ดดดด) ตอนท้าย โอจังบอกโน่นะ ชอบเล่นเกมใช่ไหม ระหว่างการแข่งเบสบอลอยู่เกิดควักเกม(ด้วยความเคยชินขึ้นมาเล่น) อย่างนี้ต้องโดนไล่ออกซิ โถถถถถถ เป็นอาราชีนะ โชคดี ที่สุดแล้ววววว
ตอนท้าย โอโน่เซนเซ บอกให้เอากองไฟขึ้นมา แล้วให้นักเรียนทั้งห้อง 37000 คน ทำพิธีรอบกองไฟกัน โดยโอโน่เซนเซ เป็นคนนำ เซนเซให้พวกเราเหล่านักเรียนลุกขึ้น เซนเซเรียกกองไฟมาจากข้างล่าง (ไฟเยอร์------ ไฟเยอร์ ไฟเยอร์) กองไฟก็ขึ้นมาจากข้างล่าง ที่สำคัญ ฮาตรงที่โอโน่เซนเซ ออกเสียงคำว่า ไฟเยอร์ สำเนียงภาษาอังกฤษเปะมากกกกก มีโชจังหรือจุน บอก ไม่ใช่ ไฟย่า(สำเนียง อังกฤษ ญี่ปุ่น) โอโน่เซนเซ บอกไม่ใช่ๆ ต้อง ไฟเยอร์------แล้วทำเสียงคำว่า ไฟลล สูงปร๊ดดด เยอร์ ลงมาต่ำเลย เนี้ย ความฮามันมาตอนนี้แหละ (พระเอกมักจะมาตอนท้ายว่างั้นเถอะ ) แล้วพวกเรานักเรียนก็ร้อง ไฟเยอร์(ต้องสำเนียงภาษาอังกฤษเปะๆ กันทั้งห้องเรียน) อิอิ
สุดท้ายจบห้องเรียนแล้ว เซนเซก็นั่งกันที่ขอนไม้อีกรอบ(แอบสงสารก้นอันน้อยๆ ของโน่ โอจังกับไอบะจังมากเลย มันแข็งนะ นั่งไม่สบายแน่ๆเลย สงสารเหล่าเซนเซอ่ะ)
มาต่อ โน่เอากีต้าร์(มาตอนไหนก็ไม่รู้) วันนี้ ร้องเพลง ฟุรุซาโต้ ภาค วากุวากุ กันค่ะ แต่เวอร์ชั่นนี้เพราะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ในสามโลก ชอบมากเลย แน่นอน โอจัง ร้องเพลงได้เพราะอะไรขนาดนี้นะ ไม่เข้าใจ
จากนั้นก็ลำลากัน ขึ้นรถโทร๊อคโก วิ่งไปรอบๆสนาม อำลากัน และก็บอก รถ Friendship จะออกวิ่งวันที่ 20 เดือนกรกฎาคมนะครับ อย่าลืมทักทายกัน สุดท้ายเราก็เห็นวีทีอาร์ ที่ เซนเซของพวกเราเพ้นสีบนรถเฟรนชิปค่ะ เซนเซทุกคนเน้อนเรื่อง สัมพันธภาพระหว่างเพื่อน ของให้พวกเรารักษาไว้ และวันที่ 20 กรกฎาคมเป็น วันเพื่อนโลก ทุกคนอย่าลืมให้ความสำคัญกับเพื่่อนของเรา รักษามิตรภาพให้ยาวนาน มีการสื่อสารกันอย่างต่อเนี่อง
จบแล้ว ......ค่ะ รีบกลับบ้านออกมาก่อนวีทีอาร์จะจบเพราะบ้านไกล
คอมเม้นท์ ส่วนตั้วส่วนตัว รู้สึกว่าปีนี้จะสนุกสนานเฮฮามากกว่าทุกปี เหล่าเซนเซก็เน้นให้ทำกิจกรรมร่วมกันเยอะแยะ ต้องขออภัยที่จำของ ไอบะเซนเซได้เยอะกว่า ใครๆ(ก็เนาะ ไผ่เป็นไผ่ นะก้า... ครุคริ..คิดถึงอ่ะ) บางทีก็ลืมอะไรไปบ้าง สับสนไปมั้งต้องขอโทษนะค่ะ
ที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง อยากบอกว่ามันสนุกมากกดีมาก เก็บความประทับใจมาเต็มเลย เราไปเล่งมารอบนี้ เผื่อปูทางไวว่าเราจะควรไปนั่งตรงไหนดี(ต่อ) เซนเซนน่ารักทุกคน ขนาดไม่ใช่คอนเสิร์ตนะยังสนุกเลย ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงได้มีโรงเรียนมาสี่ปีแล้วววว จะเป็นนักเรียนโข่งต่อไปค่ะ
บรรยากาศก่อนเริ่มเรียน ภาพไม่ค่อยชัดเพราะ รีบถ่ายมากกลัวและเกรงใจสต๊าฟมากค่ะ
เบนโตที่นำมาวันนี้ ค่ะ หน้าตาไม่เท่าไร เพราะไม่ได้มาจากบ้านเต็มที่ เลยได้มาแค่นี้